แอปเปิ้ลช่วยลดความอ้วน

แอปเปิ้ล (Apple) จัดเป็นผลไม้ลดความอ้วน/ลดน้ำหนักยอดนิยมชนิดหนึ่งของโลก  ผลของแอปเปิ้ลจะมีหลายสี อาทิ แอปเปิ้ลแดง แอปเปิ้ลเขียว และแอปเปิ้ลเหลือง ซึ่งสีของแอปเปิ้ลจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของมัน

คุณค่าทางโภชนาการของแอปเปิ้ล

ถ้ากินโดยไม่ปอกเปลือก แอปเปิ้ลจะให้พลังงานประมาณ 80 แคลอรี  อีกทั้งยังประกอบได้ด้วยเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ เบต้าแคโรทีน แร่ธาตุและวิตามินอีกหลายชนิด เช่น

- วิตามินบี6 ประมาณ 0.1 มิลลิกรัม
- วิตามินซี ประมาณ 7.9 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก ประมาณ 0.2 มิลลิกรัม
- ทองแดง ประมาณ 0.1 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม ประมาณ 158.7 มิลลิกรัม

เส้นใยหรือไฟเบอร์ที่มีอยู่ในแอปเปิ้ล จะเป็นเส้นใยชนิดที่ละลายน้ำได้ เรียกว่า เพคติน ที่ประกอบด้วยกรด 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน นอกจากนี้ยังพบสรรพคุณที่ช่วยบำรุงหัวใจ ลดคลอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเชื้อไวรัส

การกินแอปเปิ้ลให้ได้รับคุณค่าทางโภชนาการสูงสุดจึงควรกินทั้งเปลือก เพราะถ้าหากกินโดยปอกเปลือกปริมาณเส้นใยและสารเหล่านี้ก็จะลดลงไปด้วย

ทำไมจึงกินแอปเปิ้ลเพื่อลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน
เนื่องจากในแอปเปิ้ลมีคาโบร์ไฮเดรตและน้ำตาลถึง 75%  ซึ่งน้ำตาลในแอปเปิ้ลเป็นโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลง แต่แอปเปิ้ลสดเท่านั้นที่มีสรรพคุณนี้

จุดเด่นของแอปเปิ้ล แบ่งตามสี

1.แอปเปิ้ลแดง มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด ให้พลังงานสูง มีรสหวาน
2.แอปเปิ้ลเขียว มีรสอมเปรี้ยว นิยมกินในช่วงลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน เพราะมีปริมาณน้ำตาลน้อย จึงช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี
3.แอปเปิ้ลเหลือง มีประโยชน์ต่างจากสีอื่นๆ เพราะมีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก

หากให้วิเคราะห์จากคุณค่าสารอาหารต่างๆเปรียบเทียบระหว่างแอปเปิ้ลเขียวและแอปเปิ้ลแดง จะพบว่าไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่แอปเปิ้ลแดงมีเหนือกว่าเล็กน้อยคือ ปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระ

Credit >> http://dietfoodfruit.blogspot.com